GO Blog | EF ประเทศไทย
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการเดินทาง ภาษา และวัฒนธรรมโดย EF Education First
Menuรับโบรชัวร์ฟรี

เพลงคริสต์มาสที่ดีที่สุด 12 เพลงจากทั่วโลก

เพลงคริสต์มาสที่ดีที่สุด 12 เพลงจากทั่วโลก

ทุกสิ่งที่ฉันต้องการในวันคริสต์มาสคือ…เพลงคริสต์มาสไงล่ะ! วันหยุดไม่ได้เป็นเพียงโอกาสอันดีในการใช้เวลากับคนที่คุณรักพร้อมๆ ไปกับการเพิ่มน้ำหนักด้วยคุกกี้แสนอร่อยเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับการร้องเพลงด้วยจิตวิญญาณอันร่าเริงอีกด้วย ทำไมไม่ลองทำให้เทศกาลในปีนี้พิเศษกว่าที่เคย ด้วยการร่วมเฉลิมฉลองด้วยเพลงคริสต์มาสแสนไพเราะจากทั่วทุกมุมโลกดูล่ะ?

  1. ฝรั่งเศส**: Petit Papa Noël**

เมื่อเพลงๆ หนึ่งเคยถูกนำมาร้องโดย the Smurfs, Celine Dion และ The Chipmunks แล้วละก็ คุณรู้ได้เลยว่าเพลงนั้นจะต้องเป็นเพลงคลาสสิกแน่นอน ทุกคนในฝรั่งเศสสามารถร้องเพลง Petit Papa Noël ได้ โดยเพลงนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการมาถึงของซานตาคลอส หรือคุณพ่อคริสต์มาส (Papa Noël) ที่ร้องจากมุมมองของเด็กคนหนึ่งที่หวังว่าซานตาคลอสจะไม่ลืมของเล่น (ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เราทุกคนเข้าใจดีอย่างแน่นอน)

  1. สหราชอาณาจักร**: Deck the halls**

คุณลักษณะบางข้อของเพลงที่ดี คือ มีทำนองที่ติดหูง่าย และท่อนคอรัสที่ร้องตามได้ง่าย Deck the Halls มีครบทั้งสองอย่าง รวมถึงเนื้อเพลง 50% ที่ร้องแค่ Fa la la la la la la la la ทำนองของเพลงนี้มาจากเพลงส่งท้ายปีเก่าของเวลส์ในช่วงศตวรรษที่ 16 และมีการเพิ่มเนื้อร้องในศตวรรษที่ 19 อายุของเพลงนี้แสดงให้เห็นว่าเพลงมีความคลาสสิกมากแค่ไหน เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงคริสต์มาสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาอังกฤษมาจนถึงทุกวันนี้

  1. อิตาลี**: Tu scendi dalla stelle**

นี่อาจเป็นเพลงที่เก่าที่สุดในลิสต์ของเรา Tu scendi dalla stelle หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า คุณลงมาจากดวงดาว เป็นเพลงที่แต่งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 และบรรยายถึงพระกุมารน้อยเยซู ซึ่งเสด็จลงมาจากฟากฟ้าที่มีดวงดาวพร่างพราย สู่โลกมนุษย์อันหนาวเหน็บในช่วงฤดูหนาว คุณจะได้ยินเพลงนี้อย่างแน่นอนในช่วงคริสต์มาสของชาวอิตาลี นอกจากนี้ คณะนักร้องประสานเสียงเด็กมักนำเพลงนี้ไปขับร้อง ซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศความรื่นเริงของเทศกาลได้เป็นอย่างดี

  1. เยอรมนี**: O du fröhliche**

O du fröhliche หรือแปลได้ว่า โอ้ คุณมีความสุข เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับช่วงคริสต์มาสและกำเนิดของพระเยซู เพลงคริสต์มาสพื้นบ้านของชาวเยอรมันเพลงนี้แต่งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และมีเรื่องราวเบื้องหลังที่ซึ้งมาก คือ หลังจากที่ Johann Daniel Falk ผู้แต่งเนื้อเพลงนี้สูญเสียลูก 4 คนในบรรดาลูกๆ ทั้งหมด 7 คนของเขาจากโรคไทฟอยด์ เขาก็ได้ก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อเด็กที่ถูกทิ้ง และอุทิศเพลง O du fröhliche ให้แก่เด็กกำพร้าทั้งหลาย

  1. นิวซีแลนด์**: A Pukeko in a Ponga Tree**

A Pukeko in a Ponga Tree คือเพลง The Twelve Days of Christmas ในเวอร์ชั่นของชาวเมารี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่สนุกสนานที่สุดในการฝึกพลังสมอง โดยการจำเนื้อเพลง 12 ท่อนที่ต่อเนื่องจากท่อนก่อนหน้า Pukeko คือนกที่บังเอิญชอบอยู่ตามต้น Ponga ต้นเฟิร์นท้องถิ่นของนิวซีแลนด์ ของขวัญอื่นๆ ที่มอบให้กันในช่วงคริสต์มาส 12 วันของนิวซีแลนด์คือ Kumeras (มันหวาน) หรือ Piupius (กระโปรงพื้นเมืองของชาวเมารี)

  1. ออสเตรเลีย**: Jingle Bells**

เช่นเดียวกับที่นิวซีแลนด์ประยุกต์ให้เพลงคลาสสิกเข้ากับวัฒนธรรมของตนเอง เพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลียก็มีเพลง Jingle Bells ในเวอร์ชั่นของตนเองเช่นกัน เนื่องจากเทศกาลคริสต์มาสอยู่ในช่วงฤดูร้อนของออสเตรเลีย ซานตาคลอสจึงไม่ได้นั่งเลื่อนม้ามาตามหิมะ แต่ขับรถ Holden Ute ขึ้นสนิมทะลุพุ่มไม้มา (Holden คือการประกอบรถ ute ย่อมาจาก utility ที่แปลว่าประโยชน์ใช้สอย ว่ากันง่ายๆ ก็คือ ซานต้าขับรถกระบะมา) เราไม่อยากบอกใบ้มากจนเกินไป แต่รองเท้าแตะคีบ คูลเลอร์ และบาร์บีคิวก็เป็นส่วนหนึ่งของคริสต์มาสสไตล์ออสซี่เช่นกัน

  1. สหรัฐอเมริกา**: White Christmas**

White Christmas ที่ขับร้องโดย Bing Crosby คือซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดในโลก ฉะนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพลงนี้ต้องอยู่ในลิสต์ของเราอย่างแน่นอน โดยเป็นหนึ่งในเพลงที่ค่อนข้างใหม่ในลิสต์ ซึ่งแต่งขึ้นในปี ค.ศ. 1942 โดย Irving Berlin แต่ได้นำมาขับร้องใหม่โดยนักร้องชื่อดังนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ Elvis ไปจนถึง Iggy Pop และ Lady Gaga และยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมายอีกด้วย

  1. ละตินอเมริกาEl Burrito de Belén(El Burrito Sabanero)

หากคุณเติบโตขึ้นในประเทศที่พูดภาษาสเปน คุณก็น่าจะรู้จักเพลงคริสต์มาสละตินอเมริกาสุดคลาสสิกเพลงนี้ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเดินทางไปยังเบธเลเฮมบนหลังลาตัวน้อยเพื่อไปพบกับพระกุมารน้อยเยซู แต่เดิมนั้น El Burrito de Belén ได้รับการบันทึกเสียงโดยคณะนักร้องประสานเสียงเด็กชายชาวเวเนซูเอลา และเป็นเพลงที่ร้องตามและเต้นตามได้ง่าย แถมยังติดอยู่ในหัวอย่างเหนียวแน่นหลังเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย

  1. ไนจีเรีย**: Betelehemu**

เพลงคริสต์มาสของไนจีเรียที่เกี่ยวกับเมืองเกิดของพระเยซูเพลงนี้ขับร้องเป็นภาษาโยรูบา หนึ่งในภาษาท้องถิ่นของแอฟริกาตะวันตก จุดกำเนิดของเพลงนี้ไม่ค่อยชัดเจน แต่เราต้องขอขอบคุณ The Glee Club แห่งมหาวิทยาลัย Morehouse College ในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ที่จัดแสดงเพลง Betelehemu เป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 1960 และทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงหลักสำหรับคณะนักร้องประสานเสียงทั่วโลก

  1. ทวีปอเมริกา**: Feliz Navidad**

เพลงคริสต์มาสที่มี 20 คำในสองภาษาเปรียบเสมือนแจ็คพ็อตสำหรับผู้เรียนภาษา หากคุณเรียนภาษาสเปนและอังกฤษ เพลงนี้ก็ถือเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเริ่มต้นเรียนรู้ Feliz Navidad แต่งโดยนักร้องและนักประพันธ์เพลงชาวเปอร์โตริโก José Feliciano และเป็นเพลงคลาสสิกในทวีปอเมริกาเหนือและประเทศที่พูดภาษาสเปนมากมายหลายแห่ง

  1. สวีเดน**: Räven raskar över isen**

Räven raskar över isen เพลงโฟล์คเก่าแก่ของสวีเดนที่แปลได้ว่า สุนัขจิ้งจอกวิ่งข้ามผืนน้ำแข็ง เป็นเพลงเต้นรำที่เหมาะกับวันหยุดเทศกาลอย่างเห็นได้ชัด และชาวสวีเดนร้องเพลงนี้ในขณะที่พวกเขาเต้นรำรอบต้นคริสต์มาส เพลงคลาสสิกเพลงนี้มีเวอร์ชั่นใหม่หลายเวอร์ชั่น หนึ่งในนั้นแต่งโดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสวีเดนเพื่อสร้างความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเปลี่ยนเนื้อเพลงให้สุนัขจิ้งจอกว่ายน้ำข้ามทะเลสาบแทนเพราะน้ำแข็งละลายหมด

  1. เกือบทุกภาษา**: Silent Night**

พูดง่ายๆ Silent Night ก็คือเพลง Happy Birthday ของบรรดาเพลงคริสต์มาสทั้งหลายนั่นเอง เพลงนี้คือเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากกว่า 100 ภาษา Franz Xaver Gruber ประพันธ์เพลง Stille Nacht, heilige Nacht ในปี ค.ศ. 1818 ในประเทศออสเตรีย อีกสองปีถัดมา มีการเพิ่มเติมคำลงในเนื้อเพลง และเพลงนี้ก็ได้เดินทางไปทั่วโลกนับแต่นั้นเป็นต้นมา Silent Night ยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่สามารถจับต้องได้โดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ. 2011 อีกด้วย

ฝึกภาษาให้คล่องและท่องคริสต์มาสไปกับเรา!ดูเพิ่มเติม
รับจดหมายข่าวเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ภาษา และวัฒนธรรมลงทะเบียน

เปิดโลกกว้างและเรียนภาษาที่ต่างประเทศ

เรียนรู้เพิ่มเติม