ทิปเพื่อคะแนนท็อป: เคล็ดลับ 4 ข้อเพื่อให้เรียนภาษาใหม่ได้เร็วขึ้น
/)
การเข้าคลาสเรียนภาษาอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว การเรียน (และเชี่ยวชาญ!) ภาษาต่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยความพยายาม ความพากเพียร และความมานะอดทน แต่เมื่อคุณใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด และเปลี่ยนแปลงนิสัยของคุณเล็กน้อย คุณก็จะสามารถควบคุมเวลาในคลาสเรียนของคุณได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่วเร็วขึ้น
และนี่คือเคล็ดลับในการส่งเสริมการเรียนรู้ในห้องเรียนของคุณที่เราได้ทดลองใช้และได้ผลมาแล้ว:
ใช้ลิสต์คำศัพท์ของคุณอย่างสร้างสรรค์
ในขณะที่คุณซึมซับคำศัพท์ในชั้นเรียน คุณอาจคิดว่าคุณจะไม่มีวันลืมคำใหม่ๆ ที่คุณได้ยิน แต่โชคไม่ดีที่คำศัพท์เหล่านี้มักจะมาทีละมากๆ จนคุณไม่สามารถใช้วิธีการท่องจำอย่างเดียวได้ ให้คุณใช้วิธีการจด เพราะการเขียนบางอย่างลงไปในกระดาษจะช่วยเน้นย้ำการเรียนรู้ในสมองของเรา และการจดลิสต์คำศัพท์ก็เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝน แต่คุณรู้ไหมว่าอะไรที่ดีกว่าการจด? การนำลิสต์เหล่านั้นไปใช้จริงไงล่ะ
เพื่อให้ลิสต์คำศัพท์ของคุณมีประโยชน์ ให้คุณสร้างนิสัยการจัดหมวดหมู่คำใหม่ๆ แล้วเชื่อมโยงคำเหล่านั้นเข้ากับความหมาย ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้สมองของคุณประมวลผลคำศัพท์แต่ละคำอย่างเป็นเหตุเป็นผล เริ่มจากการใช้เทคนิค “การจดลิสต์ขั้นเทพ” เหล่านี้ข้อใดข้อหนึ่ง หรือจะรวมทุกข้อเลยก็ได้
แบ่งหน้ากระดาษของคุณออกเป็น 3 คอลัมน์สำหรับคำ ประเภทของคำ (คำนาม คำกริยา คำบุพบท ฯลฯ) และความหมาย เมื่อคุณได้ยินคำใหม่ ให้คุณเติมลิสต์ของคุณให้เต็ม เช่น “surgeon,” “คำนาม” “แพทย์ที่ทำการผ่าตัด” แล้วปิดคอลัมน์ต่างๆ เมื่อคุณอ่านทบทวนเพื่อเป็นการทดสอบตัวคุณเอง
ใช้รหัสสีไฮไลต์คำศัพท์ใหม่ๆ ตามวิธีการใช้ เช่น ประเภทของคำ หัวข้อ (การเดินทาง การทำงาน อาหาร) หรือวิธีใช้งานตามหลักภาษาศาสตร์ (คำสแลง เป็นทางการ/ ไม่เป็นทางการ) การใช้สีจะช่วยให้คุณค้นพบคำที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว และช่วยคุณในการทดสอบความรู้ของตนเองด้วย
เสริมสร้างความจำของคุณด้วยการเพิ่มตัวอย่างของคำลงในบริบท อาจารย์ของคุณใช้คำนี้ในประโยคไหน หรือวาดรูปที่ช่วยให้จำได้ง่ายขึ้นลงบนกระดานหรือไม่? ถ้าใช่ ให้คุณจดลงไปในสมุดด้วย การใช้คำในบริบทจะช่วยลดโอกาสที่คำเหล่านั้นจะหลุดลอยออกไปจากความทรงจำของคุณหลังจบคาบเรียน
หลีกเลี่ยงเพื่อนที่พูดภาษาแม่ภาษาเดียวกัน
แม้ว่าคุณอาจจะได้ลงเรียนในชั้นเรียนกับเพื่อน หรือผูกมิตรกับเพื่อนดีๆ สักคนจากประเทศของคุณก็ตาม แต่หากคุณต้องการเรียนรู้ คุณต้องหักห้ามใจไม่จับคู่กับเพื่อนเหล่านี้ในชั้นเรียน ทำไมน่ะหรือ? เมื่อคุณทำงานกับคนที่พูดภาษาแม่ภาษาเดียวกับคุณ คุณก็จะไม่ท้าทายตัวเอง และเมื่อพบกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก คุณก็จะอยากเปลี่ยนกลับมาใช้ภาษาของคุณเอง ในทางตรงกันข้าม การกล้าที่จะทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคุณ (ซึ่งคุณไม่สามารถแอบพูดภาษาแม่ด้วยได้!) จะเป็นการบังคับให้คุณต้องตั้งใจฝึกฝนมากขึ้น เพื่อให้เข้าใจและเป็นที่เข้าใจในภาษาใหม่ของคุณ และนั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณเลือกเข้าคลาสนี้มาตั้งแต่ต้นหรอกหรือ?
คุย คุย คุย
ถึงตอนนี้ เราไม่ได้จะบอกว่าคุณควรทำตัวแบบนักเรียน_คนนั้น_ คนที่ชอบขัดจังหวะ คุยไม่หยุด และดึงความสนใจไปจากบทเรียน เพราะคนเหล่านี้ไม่เกรงใจเวลาของเพื่อนๆ ในชั้น อย่างไรก็ตาม หากคุณปฏิเสธที่จะโต้ตอบ คุณก็ไม่ช่วยให้ตัวเองเรียนรู้เช่นกัน จำไว้ว่า อาจารย์ของคุณอยู่ตรงนั้นเพื่อคอยช่วยเหลือคุณ หากคุณมีคำถาม ข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามเรื่องใดก็ตาม ให้คุณพูดออกมา การบอกปัญหาของคุณออกมาดังๆ (โดยเฉพาะเป็นภาษาต่างประเทศ) เป็นการฝึกพูดที่ยอดเยี่ยมในตัวของมันเอง และมักช่วยให้คุณมองเห็นวิธีแก้ไขก่อนที่จะมีใครหยิบยื่นมาให้คุณ เมื่อเรียนภาษาใหม่ เราจะไม่สามารถพัฒนาได้ด้วยการเก็บความสงสัยไว้ข้างในคนเดียว แต่จะพัฒนาได้โดยการแก้ปัญหาเหล่านั้น ไม่แน่ บางทีอาจจะมีคนอื่นในชั้นเรียนที่มีคำถามแบบเดียวกัน และจะได้ประโยชน์จากคำตอบของอาจารย์เช่นกัน!
เข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ
คุณก็คงรู้สถานการณ์ดี คุณสมัครเรียนคอร์สภาษาจีนกลาง ตุรกี สเปน หรือฝรั่งเศสด้วยความตื่นเต้นเหมือนเด็กที่ปิดเทอมฤดูร้อนวันแรก คลาสแรกๆ เป็นไปได้สวย แต่แล้วคุณก็เริ่มเข้าสู่ “ชีวิตจริง” งานเริ่มจะยาก เพื่อนๆ ก็เดินทางมาเยี่ยมกันใหญ่ คุณเผลอหลับคานาฬิกาปลุก และสุดท้าย เป้าหมายใหม่สุดไฉไลในการเรียนภาษาใหม่ก็เริ่มจะมีฝุ่นจับ มีนักเรียนมากมายที่เริ่มต้นด้วยความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ แต่แล้วก็เริ่มหมดไฟหลังจากที่เรียนไปสักสัปดาห์ ประเด็นก็คือ แม้จะไม่มีใครคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับตนเอง แต่นักเรียนส่วนใหญ่ไปไม่ถึงเส้นชัยของการเรียนรู้ในระยะยาว อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณได้ แล้วคุณจะกระตุ้นตัวเองให้เข้าเรียนในชั้นเรียนอย่างสม่ำเสมอได้อย่างไรล่ะ? ให้คุณลอง:
เตือนตัวเองว่าทำไมคุณจึงเลือกที่จะเรียนสิ่งนี้ แปะข้อความสร้างแรงบันดาลใจบนคอมพิวเตอร์หรือกระจกของคุณ เล่าถึงเป้าหมายของคุณให้เพื่อนๆ และครอบครัวฟัง หรือนึกภาพว่าตัวคุณจะมีความสุขขนาดไหนทันทีที่คุณบรรจุเป้าหมาย
ซึมซับวัฒนธรรมของประเทศเจ้าของภาษาที่คุณเลือก รับประทานอาหารของผู้คนที่นั่น ชมภาพยนตร์ของพวกเขา อ่านหนังสือเกี่ยวกับประเทศที่พูดภาษานั้นๆ และค้นหาบทความข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันในประเทศดังกล่าว
จองเที่ยวบิน เพราะเมื่อทำเช่นนี้แล้ว คุณจะมีข้อผูกมัดที่จะต้องเดินทาง และจะต้องใช้ภาษาที่คุณเลือกได้อย่างมั่นใจที่สุดเท่าที่จะทำได้!